Pages

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ movie-review แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ movie-review แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธ, กรกฎาคม 31, 2556

รีวิว : The Wolverine - หมาป่าเล็บหัก



ทำใจไว้ตั้งแต่มีคนบอกให้ดูหลังเครดิต แต่ไม่คิดว่าจะ Fail มากมายนัก
เนื่องด้วยกำลังฟินค้างกับ Pacific Rim อยู่ ...

เท่าที่ติดตาม X-Men Series ของ Marvel ที่เอามาทำเป็นหนัง
พบว่า The Wolverine ก็เป็นหนังอีกเรื่องที่ทำได้ครบ "องค์ประกอบ" ของ X-Men
ที่ไม่เน้นอภินิหารหวือหวานัก (เหรอ) ดูมีความเป็นคน มากกว่าสไตล์ของ DC ...

แต่หลังจากดูจบพร้อมกับดู ตอนหลังเครดิต
ก็บอกได้คำเดียวว่า ... นี่มัน ....
.
.
.
.
Prologue Chapter นี่หว่า  !!!!
ถือว่าการตลาดเค้าใช้ได้จริงๆ กับการที่ให้รอ

X-Men : Day of Future Past (2014)

.
สรุปและสปอยล์

  • เล็บหักไม่รู้จะไปต่อเล็บที่ไหน
  • เดาว่า ญี่ปุ่น sponsor ใหญ่ จัดมาเต็มมาก ...
  • ฉากต่อสู้จัดมาเต็มดี แต่ดูเฉยๆ #คงเพราะเริ่มเบื่อมุข
  • Mutant น้อยไปหน่อย effect เลยไม่เยอะตาม แต่ฉากสู้บนชินคังเซนนี่บรรเจิดมาก
  • ห้องสไตล์ที่ฮิวจ์ ... ต้องเลือก ดาวอังคาร ....
  • ตัวโกงโผล่มาตั้งแต่ต้นเรื่อง หรืออาจเพราะ trailer
    ปล่อยมาเยอะเกินไปเลยทำให้เดาตอนจบได้
  • ต้นเรื่องเก่งแค่ไหน จบเรื่องเก่งน้อยกว่าเดิม

โดยรวมถ้ายังไม่เบื่อกับหนังของ Marvel .. ดูขำขำก็โอเค ครับ :)





วันจันทร์, กรกฎาคม 22, 2556

รีวิว : Pacific Rim - จิตวิญญาณแห่งเหล็กไหล !!


 source : http://icftt.tumblr.com/image/52345104798

ไม่ค่อยได้เห็นหนังแนวหุ่นยนต์จัดหนักแบบนี้มาก่อน ....
ส่วนตัวชอบแนวกันดั้มอยู่แล้ว  .... หนังหุ่นยนต์ plot คงไม่ต้องเน้นเยอะ ..
เพราะเคย fail กับ Mobile Suit Gundam 00 the Movie: A Wakening of the Trailblazer
ที่พยาม balance  action & plot แล้วไม่ค่อยโอเท่าไหร่ ...
เลยคิดว่าหนังหุ่นยนต์ เน้นเอามันส์อย่างเดียวน่าจะดีกว่า ...
แล้วก็ออกมาดีอย่างที่คาดไว้ (แม้เนื้อเรื่องจะไม่มีอะไรเลยก็ตาม)

  • plot เรื่องสั้นมาก .. แต่เล่นอัดเต็ม 2 ชัวโมงนิดๆ ...
  • action ไม่สุด ... ถ้าเป็นเกมส์แนว Super Robot War อาจจะเรียกว่ายังไม่ได้แสดงท่าไม้ตาย (ฮา)
  • บทซึ้งยังไม่ทันจะซึ้ง ก็กลับมาสู้ต่อ ... เลยกลายเป็นไม่ซึ้ง (ซะงั้น)
  • ไปดูโรงแว่นใหญ่ ... ต่อยกันทะลุจอ ... ( แม้จะเข้าตอนต้นเรื่องไม่ทันก็ตาม )
  • มี ฉาก ให้ดูตอน end-credit ต่ออีกหน่อย  
  • ถ้าไม่ชอบหนังหุ่นยนต์ แนะนำให้ข้ามครับ ...
ให้ 8 / 10 ในฐานะหนังหุ่นยนต์ ถ้ามีฉาก slow motion แบบพวกขบวนการ 5 สี จะอินกว่านี้ ...
แถม Main Theme แบบเร่งสปีด .. :)



วันพุธ, กรกฎาคม 17, 2556

รีวิว : Turbo (2013) - That snail is fast !!!


ตอนแรกกะจะไปดู Pacific Rim แต่โชคไม่ค่อยดี คนดูเยอะมากเลยเหลือบไปเห็นว่ามีเรื่อง Turbo ที่ทาง ค่าย m ทำ promotion "ดู 3D พกแว่นไปเอง" เลยมีโอกาสได้ดูก่อนเริ่มฉายจริิงครับ 

เนื้อเรื่องค่อนข้างชอบมากเพราะให้แง่คิดไว้เยอะเลย ... ดูผ่านๆ ขำขำก็โอเค โดยส่วนตัวแล้วชอบเป็นเรื่องรองลงมาจาก Wreck-it Ralph ถ้าชอบการ์ตูนสไตล์นี้ recommended ครับ ( อยากเขียน quote แต่กลัวสื่อไม่ถึง )

ด้าน Graphic ถือว่าทำได้ดี เนียน ...  แต่จุดที่สังเกตุจนรู้สึกได้คือ animation 3D ยุคหลังๆ ( ตั้งแต่ epic ) มักจะเน้น DoF ( Depth of Field ) มากขึ้น ทำให้เรารู้สึกว่าภาพที่ดูอยู่นั้น มีความลึกมากกว่าปกติ ... ไปดูแล้วรู้สึกคุ้มค่าตั๋ว (แบบ3D) 

กล่าวโดยสรุป :
- หอยทากได้พลังพิเศษจากการตกถัง nitus
- จิตวิทยาในด้าน conservative VS modern ค่อนข้างเยอะ ถ้าคนไม่ชอบดูแล้วอาจหงุดหงิด
- จบแบบปลายเปิด ... เป็นไปได้ที่จะมีภาคสอง (ตามสไตล์ Dreamwork )
- เพลงในเรื่องเจ๋งดี จนอยากเอามาทำ ringtone
- ผูกความเป็น social network เข้าไปด้วยทำให้รู้สึกใกล้ตัวดี


"ถ้าพรุ่งนี้ตื่นมาพร้อมกับรู้ว่าพลังพิเศษที่มีมันหายไป นายจะทำยังไง"
"ก็ต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด"

#เอาไปสิบกะโหลกกกกกกก

แถมคลิปปิดท้ายครับ :)

วันจันทร์, มิถุนายน 03, 2556

รีวิว : Now you see me - I saw laew mai ok ...


ส่วนตัวค่อนข้างคาดหวังกับหนังแนวมายากล ไว้ค่อนข้างเยอะมาก 
ประกอบกับหลายคนรีวิวว่าดี marketing ก็เยอะเวอร์ ก็เลยไปดูครับ ... 
แต่ดูแล้วไม่ค่อยโอ เท่าไหร่ ขอสปอยล์เต็มเหนี่ยวละกัน คือไปดูแล้วไม่อิน + อึดอัด

  • เนื้อเรื่องดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ เจอกัน -> ร่วมงานกัน -> ล้างแค้น
    ....  คือมันไปสนิทกันตอนไหน ?? .... มันรู้จักไอ้หัวโจกเมื่อไหร่ ??
    แล้วมันมีความแค้นร่วมอะไรกับหัวโจก ??  แล้วมันทำแล้วได้อะไร ???
    แล้วเชื่อได้ยังไงว่าไอหัวโจกจะไม่หลอก ???
    คำถามทั้งหมดนี้ ... แม้พอดูจบก็ยังไม่ได้คำตอบ ....
  • ใช้ความพยามอย่างมากในการผูกเรื่องให้มีปมใหญ่เอามากๆ ....
    ดูกลางๆ เรื่องแล้วรู้สึกไม่น่าติดตามเท่าไหร่ มาสรุปเอาแค่ตอนท้าย
  • ฉากใช้ CG ค่อนข้างเยอะ .... ดูแบบเพลินๆ พอไหว
  • ในเรื่องพยามสร้างบรรยากาศการต่อสู้ระหว่าง นักมายากล กับ คนแฉมายากล ...
    ดูแรกๆ ก็โอนะ แต่อย่างที่บอก คือใช้ความพยามมากเกินไป
    จนหาความสัมพันธ์ระหว่างกลที่เล่นกับการแฉไม่ได้ ( กลที่เล่นเยอะกว่าที่แฉ )
  • กลางๆ เกือบท้ายๆ เรื่องนึกว่านั่งดู Fast 6 อยู่ ...
  • ตอนจบ ... นอกจากจะหลอกคนดู ยังหลอกได้แม้กระทั่งตัวเอง ....
สรุป .... ดูเพลินๆ พอไหวครับ ( ย้ำแค่ว่าดูเพลินๆ ) ตอนแรกนึกว่าจะสนุกกว่านี้ ... 
เอาไป 4 เต็ม 10 กะโหลกกกกกกกกกก



วันอาทิตย์, เมษายน 21, 2556

รีวิว : Oblivion (2013)


เห็นว่าเป็นหนัง Sci-fi เลยจัดเสียหน่อยครับ ...
ตัวอย่างหนัง เรื่องย่อ ดูได้ที่นี่ ครับ ( ไม่ได้เป็นพนักงานที่บริษัทนั้นนะครับ #ฮา)

เนื้อเรื่องหนังในตอนแรก พอดูจาก Trailer ก็พอเดาได้ว่าใครเป็นบอสใหญ่ ....
เพราะเนื่องจากดูหนังแนว Sci-fi มีออกมาเยอะ ....
และส่วนใหญ่เนื้อเรื่องจะไม่ค่อยเด่น เน้นอัดสิ่งของต่างๆ ให้ดู Hi-Tech เข้าไว้ ...
เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่เข้าข่ายหนังแบบที่กล่าวไว้ข้างบน .... แต่โดยรวมก็สนุกดีครับ ...

มารีวิวกันเลยดีกว่า ...

  • หนังแนวมนุษย์ต่างดาวบุกโลก ... โดยเนื้อเรื่องถูก scope ไว้เป็นช่วงหลังสงคราม
  • จุดที่น่าสนใจคือ หนังพยายามสื่อว่า
    "ผู้ที่ทำตามกฎระเบียบ อย่างเคร่งครัดและไม่รู้จักสงสัยหรือสังเกตุ จะไม่มีวันได้เจอทางเลือกอื่นๆ"
  • ดูแล้ว รู้สึกเหมือน มานั่งดู The Matrix version 2013 มีมอเฟียส และ นีโอ ...
  • คาดว่าหนังต้นทุนต่ำ ( ลงทุนกับ CG ไปเยอะ ) เลยดูว่าตัวละครแสดง emotion ได้คุ้มดี ...
  • อุปกรณ์ hi-tech มาก  CG ทำออกมาเยี่ยม ... ฉากต่อสู้พอถัวๆ ไปได้ 
  • ถ้าทำหัว blank ๆ ก่อนเข้าไปดู และ follow emotion ตามพระเอก จะสนุกกับเรื่่องนี้
  • ชอบ quote "เราจะแก่ไปด้วยกัน และจะอ้วนไปด้วยกัน" :)
  • หากชอบ ทอมครูส เป็นการส่วนตัว แนะนำให้จัดหนัก IMAX แต่ถ้าไม่ ... Digital ธรรมดาก็พอ ...
สรุป ... ถ้าไม่ใช่แฟน Sci-fi ตัวยง หรือไม่เน้น Adventure ... แนะนำให้ข้ามไปครับ ...


วันอาทิตย์, มีนาคม 10, 2556

รีวิว : Oz the Great and Powerful ( 2013 )


เพิ่งได้ไปดูมาสำหรับ Oz the Great and Powerful ... ครับ
โดยรวมถือว่าสนุกดีสำหรับ prequel ก่อนที่จะมาเป็น
พ่อมด Oz ที่ได้รู้จักใน The Wonderful Wizard of Oz ( ที่มี หุ่นไล่กา กับ หุ่นกระป๋องตัดไม้ .... )

อ่านสปอยล์แบบเต็มเรื่องสามารถไปอ่านได้ใน Wikipedia ครับ :P
เอาเฉพาะส่วนที่อยากรีวิวลงแล้วกัน ...


  1. นึกว่าทั้งเรื่องจะเป็นสีขาว/ดำ .... แอบงงอยู่พักใหญ่ ....
  2. ฉากสวยมาก ... ถ้าได้ดูแบบ 3D คงจะอลังการมิใช่น้อย
  3. เนื้อเรื่องออกแนวเด็กๆ ไม่มีฉากบู้ หวือหวา
    หากหวังให้มีฉากต่อสู้อลังการ แนะนำให้ข้ามไป
  4. เข้าใจว่าบท Oz น่าจะ Playboy มากกว่านี้ ...
    ให้ James Franco มาเล่นแล้วผิดหวังเล็กน้อย
    (ลุง Robert Downey, Jr. มาเล่นคงเหมาะกว่า )
  5. นางเอก หน้าตาเฉยๆ บทน้อยแปลกๆ
  6. มุข กับ quote เยอะดี ... จำไม่หวัดไม่ไหว ....
ตอนแรกแอบคาดหวังว่าจะมีฉากบู้อลังการ ... 
แต่เนื้อเรื่องแอบใส่ข้อคิดไว้เยอะดี ... ก็ถือว่าพอถูไถได้ :)





วันอังคาร, มีนาคม 22, 2554

รีวิว : Rango (2011) - ถึงจะเป็นกิ้งก่าเลี้ยงแกะ แต่ก็เป็นฮีโร่ นะเฟ้ย


ก่อนไปดู ต้องยอมรับว่า ไม่ได้ตั้งใจไปดูเท่าไหร่ แต่พอดี Ranpunzel ไม่มีรอบที่สามารถดูได้
ก็เลยจัดเรื่องนี้ไปครับ

Rango เป็น Animation ที่ได้ยินจากคนไปดูมาด้วยว่า Johnny Depp เป็นคนพากษ์เสียง Rango ...
เลยได้ความน่าสนใจเพิ่มขึ้นมาระดับนึงแล้ว ... แต่พอได้ดูจริงๆ แอบผิดหวังเล็กน้อย ที่ไม่ใช่โรง 3D ...
สนุกจนอยาก recommended ให้ไปดูครับ :)

เอาล่ะ ... ได้เวลา spoil ....

  • ตัวเอก เป็นกิ้งก่าที่ถูกเลี้ยงในตู้ปลา แต่ดวงไม่ค่อยดี ต้องไปอยู่กลางทะเลทราย
  • หนังเป็นแนวนิทาน Style Maxico  อาจจะรำคาญตัวคั่นบท บ้าง แต่ก็ดูเข้ากันดี ....
นกสี่ตัวไว้คั่นบท ... พร้อมกับเสียงเพลง
  • ด้วยความที่เป็นกิ้งก่าเลี้ยง จึงไม่รู้ว่าโลกข้างนอกเป็นยังไง ... ใช้ดวงกับความกล้าเอาล้วนๆ ...
  • เนื่องจากเป็นเมืองอยู่กลางทะเลทราย .... plot เรื่องทำได้เจ๋งมากตรงที่
    ไม่ใช่เงินทองที่มีอำนาจในทุกที่ทุกเวลา ... แต่เป็น ....
    สิ่งที่ใช้ในการดำรงชีวิตพื้นฐานที่สุดต่างหากที่ทำให้เราอยู่รอด ...
    และคนที่ควบคุมสิ่งนั้นได้คือผู้ที่มีอำนาจที่สุด ...
เห็นตัวนี้แล้วนึกถึงถึงประโยค "ช่วยไปจับคนฆ่าพ่อหนูที"
  • คำคมโดนใจสุดๆ ... "No one can escape their own story"
  • แต่ด้วยหนังแนวเด็กเลี้ยงแกะ ต้องพิสูจน์ตัวเอง ... เหมาะให้เด็กๆ ดูเอามากๆ ...
สรุปเป็นหนังที่แนะนำให้ไปดูครับ ... ตัวการ์ตูนไม่สวยมากแต่ก็ฮาได้ทั้งเรื่อง ... 
(คนไปดูด้วยหัวเราะไม่หยุดเลย) :)

วันอาทิตย์, กุมภาพันธ์ 20, 2554

รีวิว : I am Number Four (2011) - ชายสี่มีไฟฉาย

แตะเบรคหยุดอ่านหนังสือซักแปบ มาแอบเขียนรีวิว ก่อน .... 


เห็นเค้าว่าเป็นหนังแนว Sci-Fi ที่ทำมาจาก นิยาย
ดู trailer ที่ปล่อยๆ ออกมาตอนแรก แล้วไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ ...
แต่ด้วยโอกาสหลายๆ อย่างประจวบเหมาะพอดี ... ก็เลยได้ไปดูครับ :)

  • เนื้อเรื่อง ต้องการแหวกแนวออกจาก Super Hero โดยจากการเป็น "ผู้ล่า" เปลี่ยนเป็น "ผู้ถูกล่า"
  • พระเอก เป็น มะนาวต่างดุ๊ด (มนุษย์ต่างดาว) เลยแพ้คลิปโตไนต์ 
  • หนัง Super Hero ต้องมีฉากทดสอบพลัง ... ไม่งั้นไม่ Cool ... 
  • ตัวเอกเป็นเด็กมีปัญหา เพราะโดนพี่เลี้ยง(ที่เป็นองครักษ์) คอยกดดัน 
  • คาดว่า Apple เป็น sponsor หลัก ในหนังเรื่องนี้ notebook / desktop เป็น mac หมด ...
    iPhone 3GS โผล่หลายฉากพร้อมเสียงเรียกเข้า และ SMS มาตรฐาน
  • แต่มี netbook HP ที่ Number Six ถือแวป ๆ
  • นางเอกบ้ากล้อง ... คาดว่า Nikon และ Canon  เป็น sponsor ให้ด้วยเช่นกัน ...
จะ จะ เลยนะตัวเธอว์ ...
  •  plot เรื่อง โดยรวมคือ ต้องรวมพลังกันสู้กับคนที่ตามล่า ...
    คล้ายๆ การ์ตูนญี่ปุ่นซักเรื่องแต่นึกชื่อไม่ออก ...
    (ต้องรวมพลัง A+B+C ถึงจะหยุดจอมมารได้ว่างั้น)
  • Number Six .. เท่ห์มวากก .... เพิ่งรู้ว่าคือ Teresa Palmer ที่เล่นเป็นนางเอก ( Becky Barnes ) ในเรื่อง The Sorcerer's Apprentice (ก็ว่าหน้าคุ้นๆ ...)
แบบนี้ก็น่ารักดี ....

แต่ ... เรื่องนี้ ...
คะบู้มมมมมมมมมมม เจ๊จะเท่ห์ไปไหนค้าบ
  • ฉากต่อสู้โดยรวมระทึกดี ... ถึงไม่บู้ล้างผลาญ เหมือน Super Hero เรื่องอื่นๆ
    (ว่าแต่มันเป็น Super Hero ชิมิ ?)
  • ถึงบทบู๊เมื่อไหร่ .... พระเอกของเราโดนแย่งซีน 100% ...
ก็เป็นหนังที่น่าดูอีกเรื่องครับ ถ้ายังไม่เบื่อหนังแนว Sci-Fi
ที่ค่อนข้างจะ Super Nature ไปนิดส์...



วันเสาร์, กุมภาพันธ์ 19, 2554

รีวิว : Black Swan (2010)

รูปจาก Kapook

ช่วงนี้ ไม่มีหนังเก่าให้ย้อนกลับไปดู ... ก็เลยต้องหาหนังเก่า(ของฝรั่ง) มาดูแก้ขัดไปก่อน
ด้วยคำแนะนำของ @Khajochi เกี่ยวกับเวปรวบรวมหนังที่ชื่อว่า RottenTomatoes
ที่รวมเอา review ของ reviewer และ audience มาแสดงเป็น % ให้ดูว่าหนังเรื่องไหน น่าดู/ไม่น่าดู ...
ครั้นจะไปหาอ่านจาก IMDB ก็ดูจะอลังการไป ... ก็เลยใช้เวปนี้แหละ .. หาหนังมาดูแก้เซ็ง - -''

เลยได้โอกาสหาเรื่องนี้มาดูครับ ... Black Swan .... เห็นรีวิวพุ่งกระฉูดไปถึง 88%
เลยต้องหามาดูซะหน่อย ....ตอนแรกที่ดูไม่รู้ว่ามัน Rate R ...
แต่ก่อนเขียน Blog นี้กลับไปดูที่เวปอีกที ...
เลยถึงบางอ้อ ว่า ... อ่าว R เหรอเนี่ย ... มิน่ามีฉากแปลกๆ >.<

ไหนๆ หนังกำลังจะเข้าไทย ... เลยเขียนสปอยล์ ไว้เลยดีกว่า ๕๕๕

  • ไม่รู้ว่าเป็นแนว Thriller .... ดูแล้วสะดุ้งเป็นพักๆ ...
  • เรื่องราวมันจะตัดไปตัดมา โดยมุมกล้องจะพยายามให้เรา "ติด" อยู่กับตัวนางเอก ...
    ซึ่งถ้าดูไปแล้วไม่ตั้งสติให้ดี .... ก็จะหลอนตามนางเอกไปด้วย ...
  • อย่างที่บอกว่า Rate R .... ก็แอบแรงส์ .....
  • CG ในเรื่องเพิ่มความหลอน เป็นทวีคูณ ...
  • นึกว่าจะจบ Happy Ending ... แต่หนัง Thriller ... คงยากที่จะจบแบบนั้น ...
  • ด้วยความที่ตัดไปตัดมา .... เดาไม่ถูก ว่าอันไหน นางเอกคิดไปเอง
    อันไหนเป็นเรื่องจริง ...
  • สรุปว่า ... ได้ความหลอน มา 100% ....
  • แอบมีคำถามในใจ ว่า ... ที่เป็นแบบนั้นเพราะ ...จริงจังเกินไป จนกลายเป็นบ้า หรือเปล่า ???
โดยรวมก็สนุกครับ :) แต่อย่างที่บอกว่า ตอนแรกคิดว่าจะหาหนังแนว Drama มาเสพเฉยๆ ... 
แต่กลายเป็นได้ Thriller + Rate R  มาแทน ก็..... ได้ความหลอน กลับมา 100% ๕๕๕

วันอาทิตย์, มกราคม 16, 2554

รีวิว : MegaMind ( 2010 )


จบไปอีกเรื่องกับการ์ตูนที่รอคอยดู ... MegaMind  ... การ์ตูนแนว super hero
จาก DreamWorks studioที่เคยได้สัมผัสจาก Kung-Fu Panda  ...

เนื้อเรื่องเป็นการต่อสู้ระหว่าง ฝ่ายธรรมมะ ( Metro Man ) กับ ฝ่ายอธรรม ( Mega Mind )
ที่ฮาได้ใจ ... และค่อนข้างเสียดสีการ์ตูนแนว super hero พอสมควร ...
ก็ไม่ผิดหวังสำหรับเรื่องนี้ครับ ... ฮาได้ทั้งเรื่อง ....
มุขได้ Feeling เหมือนๆ กับ Kung-Fu Panda แต่เนื้อเรื่องแตกต่างออกไป ...

ไปดูโรง 3D ของ SF เป็นครั้งแรก ... ยอมรับว่า แตกต่างกับ IMAX พอสมควร
คือ ... แว่นเล็กไปนิด แถมหนีบจมูกมาก .. (หรือเพราะว่าเราหัวโต) -*- .....
ส่วน 3D ไม่ค่อยทะลุจอซักเท่าไหร่ ....
ยังไงก็ติดใจ IMAX มากกว่า ... ( แต่บัตร IMAX ก็แพงกว่าเกือบเท่านึง ... )

เอาล่ะ บ่นมาเยอะ ... เริ่ม SPOIL ดีกว่า ...


SPOIL :

  • ชื่อเรื่องก็บอกอยู่แล้วว่า MegaMind ... ไม่ใช่ Metro Man ... ดังนั้น ตัวร้ายเป็นพระเอก ...
  • เนื้อเรื่องล้อเลียนการ์ตูน Super Hero ทั้งหลาย ... ที่ธรรมมะ ย่อมชนะ อธรรม ...
    เรื่องนี้เลยพยายามแหวกแนวออกไปคือ ให้ อธรรมชนะ ... 
  • เมื่อ อธรรมชนะ  ... ก็ต้องหาจุดเปลี่ยนเนื้อเรื่อง ...คือต้องหา(สร้าง)
    Super Hero มาสู้กันด้วยใหม่ ...
  • แต่ด้วยมุขการ์ตูน ... เมื่อทำการ "สร้าง" ก็ต้องมีให้เกิด Surprise ...
    คือแทนที่จะสร้างได้ Super Hero ที่เหมือนคนเดิม กลับกลายเป็นสร้าง Super Evil ...
  • เมื่อมี Super Evil ก็ต้องให้ Evil มาเป็น Super Hero แทน (ให้คนสร้างทำลายสิ่งที่สร้าง)
  • ฉากเศร้า .... ไม่ว่าการ์ตูน หรือหนังคนแสดง ... ยังไงก็ต้องมีฝนตก ... 
  • Ideal super hero คงหนีไม่พ้น ... Super man .... ดังนั้น Metro Man คือ
    ทุกอย่างที่ Super Man มี ยกเว้น แพ้คริปโตไนต์
Quote + แนวคิดที่ได้จากเรื่อง ...
  • คนดีคนเลว ... บางทีอาจจะไม่สามารถวัดจากสิ่งที่เห็นภายนอกได้ ...
    สิ่งที่เห็นอาจจะเกิดจากสภาพแวดล้อมรอบตัวทำให้เขาเป็นแบบนั้นเสียมากกว่า ...
  • Bad guy cannot get a girl .... ( เหรอ ...)
  • ชีวิตแบบคนปกติ เป็นทุกสิ่งที่หลายๆ คนใฝ่ฝันหา ....

มีอีก แต่นึกไม่ออก ... ... เอาเป็นว่าเป็นอีกเรื่องที่สนุกใช้ได้ครับ :)

-------

วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 30, 2553

รีวิว Macross Frontier -Itsuwari no Utahime-


กลับมาอีกครั้งสำหรับ Macross Frontier ที่่จะเรียกว่า OVA น่าจะใช่ ....
สำหรับภาค Itsuwari no Utahime นี้เป็นภาคที่
cover เนื้อเรื่องของภาค TV Series ทั้งหมด ใหม่ !!
ดูแล้ว smooth กว่าเดิมเยอะมาก .... เนื้อเรื่องไม่ดราม่ามาก
เท่าภาค TV เหมาะสำหรับเป็น Anime ไว้ดูเพลินๆ 2 ชั่วโมง ...

สำหรับคนที่ไม่เคยดู series macross อธิบายสั้นๆ ว่าเป็น Anime
ระหว่างเสียงเพลงกับเครื่องบิน .... เพลงใน anime ทำออกมาไม่ค่อยจะผิดหวัง ...
เป็นการทำ marketing ที่สมบูรณ์แบบ ... เพลงดี การ์ตูนดี ... ขายได้ทั้งเพลง
ขายได้ทั้งการ์ตูน คนพากย์ดังอีก เพราะเป็นนักร้องตัวเป็นๆ ...
(แต่ภาค frontier เนื้อเรื่องแย่ไปนิด)
โดยรวม ... Effect ต่างๆ พวกฉาก 3D ในเรื่องปรับปรุงเยอะมากครับ
พอดู Macross แล้วเพิ่งนึกออกว่า ... Gundam OO Movie
ก็ copy concept คล้ายๆ กันมาใช้นี่หว่า ... มนุษย์สู้มะนาวต่างดุษ
ขาดแต่ไม่มีคนร้องเพลงประกอบสงครามเท่านั้น (ฮา)

เนื้อเรื่องทั้งหมดของภาคนี้จะปูทางให้ Macross Frontier Movie ภาคต่อไปครับ ...
ไว้ออกเมื่อไหร่คงได้ มาเขียนอีกรอบ ...

** ภาคนี้แอบมี Fan Service อยู่ 2 ฉาก ... เล่นเอาอึ้งเหมือนกัน ...
แถมรูป สองสาว (นางเอก) ... เชอริล .. x เหมือนเดิม ...

วันศุกร์, ธันวาคม 24, 2553

รีวิว Tron: Legacy .... พ่อกรูอยู่หนายย


ได้ไปดูมาแล้วครับ สำหรับ Tron: Legacy ... ภาคต่อของหนังระดับ Geek ในปี 1982 ...
ถึงกับลงทุนไปดู IMAX เลยทีเดียว ... แต่ความประทับใจโดยรวมอยู่ระดับปานกลางเท่านั้น ...
อาจจะเป็นเพราะคาดหวังสูงไป ... รวมไปถึงไม่เคยดูภาคแรก ...
เนื้อหางงๆ เล็กน้อยถึงปานกลาง ....
โดยสรุปรวมก็ Ok ครับ ไม่ิผิดหวังมากเหมือน Skyline

[Spoil]
  • หนังไม่ Full 3D ... โปรดฟังอีกครั้ง ... หนังไม่ Full 3D ...
    ถ้าไม่คิดว่าอยากดู ฉากคว้างดิสก์ทะลุจอ ... ไม่แนะนำให้ดูโรง 3D ครับ
  • เนื้อเรื่องทั้งเรื่องคือ ... "พ่อกรูอยู่ไหน" .... หรือพูดง่ายๆ ว่า เด็กกำพร้าตามหาพ่อครับ ...
    ถึงแม้จะเจอพ่อตั้งกะครึ่งเรื่องแล้ว ... ก็ยังเกรียนต่อไปจนถึงจบเรื่อง
  • เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อนมาก เข้าใจง่าย ... แต่ concept ไม่หนาแน่นเหมือน The Matrix ....
  • อาจจะเป็นเพราะคาดหวังเยอะในหนังแนวเดียวกันกับ The Matrix ( โลกจริงติดต่อกับโลกเสมือน) .... ทำให้หลายๆอย่าง ... ดูค่อนข้างผิดหวัง ...
  • ตัวละครบางตัวในเรื่อง ทำให้นึกถึง  .... Merovingian ...
  • ฉากต่อสู้ สั้นและเข้าใจยาก คือพยายามทำให้คง concept เกม .... แต่บางฉากก็ดูเฉื่อยเกินไป ...
  • คำคมที่ได้ จากเรื่อง .... "We are the same team" ....
สุดท้ายครับ ... ย้ำอีกครั้ง ... ถ้าพลัง Geek ไม่เข้าสายเลือด .... แนะนำให้ดูโรงธรรมดา ...

วันอาทิตย์, ธันวาคม 12, 2553

รีวิวหนังเก่า - Love Happens ( 2009 )



ช่วงที่ไปงานบุญประจำปีของพี่ต้อย
ได้ดูต้นๆ ของเรื่องนี้นิดนุง ผ่านทาง HBO
หยุดยาวคราวนี้ก็เลยหามาดูจนได้ ...


ปกติแล้วไม่ค่อยดูหนังแนวนี้ซักเท่าไหร่


แต่ที่แหวกแนว มาเพราะว่า
ตัวเอกในเรื่องนี้ เป็น วิทยากรผู้เชี่ยวชาญ วิธีพ้นทุกข์


หนังออกแนวกุ๊กกิ๊กๆ สไตล์ Romantic ... ดูแล้วเคลิ้มตาม ...
แต่ชอบตรงที่ แอบแทรกเรื่องราวให้ไปคิดต่อเยอะดี ...


อย่างเช่น ....


ระหว่างที่ดำเนินเรื่องไปนั้น
ตัวเอก จะไม่ยอมขึ้น Lift เด็ดขาด
ไม่ว่าจะขึ้นตึกสูงแค่ไหนก็ตาม ...
แต่พอคลายปมปัญหาของตัวเองแล้ว ...
ก็ยอมขึ้นลิฟท์เหมือนคนปกติ ...


มีอีกหลายๆ จุด  ... แต่ขอไม่ลง detail มากละกัน หุหุ


แอบเคลิ้มป้า Jennifer aniston ไปซะเยอะ ๕๕
แต่บทของ Aaron Eckhart ได้บารมีจาก The Dark Knight
ที่รับบท 2-Face มาเล่นเรื่องนี้แนวๆ ผู้เชี่ยวชาญ อีก...
ดูดีเลยทีเดียว ...


หนังทั้งเรื่องเป็นเรื่องราวที่เกิดใน Seattle ... ดูแล้วอยากไปเที่ยวเลย
เป็นเมืองที่สวย(เวอร์) มาก ไม่รุเป็นเพราะมุมกล้องหรือเปล่า ...
แต่ก็โอนะ เหอ ๆ






เรื่องนี้ไม่ผิดหวังครับ แต่แอบเสียดายที่เพิ่งได้ดู :)

วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 14, 2553

รีวิว : skyline (2010) ... ดูดตัง มากกว่า ดูดโลก ....





แอบนอยด์ นิดหน่อยกับหนังเรื่องนี้ ...
โชคดีที่บรรยากาศช่วยไว้ ไม่งั้น บ่นมากกว่านี้ อิอิ ... 
เนื้อเรื่องขัดใจมากมายดูแล้ว หงุดหงิด ...
แถมแอบปูเรื่องไว้ภาคสองอีก .... คิดได้ไง ...


คิดว่าทุนสร้างคงน้อย เลยเน้น effect ซะอลังการ ...
ไม่ไหวๆ ขอสปอยด์แหลกเลยละกัน ...


ฉาก Trailer ที่เห็นทั้งหมดนั่น คือสรุปเนื้อเรื่อง .... ที่มีทั้งหมด  
(เพราะมันไม่มีอะไรแตกต่างมากกว่านั้น)


ตัวละครทั้งเรื่องมี main อยู่ ... 6-7 คน


เพื่อนพระเอก มาเร็วไปเร็ว บทโคตรเด่นกว่าพระเอก ...
แต่ดันไป xxx กะชู้ พอถึงคราวหนีเอเลี่ยน
โดนคุณแฟน ให้ไปขับรถคันเดียวกับชู้
สุดท้าย ชู้โดนเอเลี่ยนเหยียบ 
ส่วนเพื่อนพระเอก โดน เอเลี่ยนดูด
หลังจากนั้น มีฝ่ายบู้ โผล่มาแทน


คุณแฟนเพื่อนพระเอก 
โดนเอเลี่ยนดูดเอาเกือบท้ายๆ เรื่อง


ฝ่ายบู้ที่โผล่มาแทนเพื่อนพระเอก 
แอบมีบทเท่ห์ แต่เรียกเสียงฮาได้ทั้งโรง


พระเอกได้พลังพิเศษ แปลงร่างเป็น Decepticon ได้ !!


ปะชะวิ้งงงงงง !!! ขั้นที่ 1 : เนตรสีขาว Activated !!!


นางเอก รอดตายจนฉากจบ


เอเลี่ยน ... ทำบทมาให้ คนธรรมดาสู้ไม่ได้ 
ยิงนิวเคลียร์ ไม่ตาย โดนระเบิดไม่ตาย
แต่โดนพระเอกระเบิดพลัง พร้อม ต่อยด้วยมือเปล่า ดันตาย !!!


เริ่มเรื่องมี instant replay เกือบๆ 5 นาที .... (ไม่ได้มาดูเดจาวู)


ฉาก CG สวยสุดมีแค่ฉากเดียว คือ
ฉากนี้ฉากเดียวจริงๆ คับพี่น้อง ...


ฉากเครื่องบิน Stealth บินฝ่าดงแมลงวัน
ยิงนิวเคลียร์ใส่ เอเลี่ยน


นอกนั้นเฉยๆ ....


หากไปดูแล้ว คุณอาจจะเกลียดแสงสีฟ้า 
มากกว่า สโลแกน "ไม่กล้าแหงนมองฟ้า"
(จะฉายใส่จอทำไมบ่อยๆ แสบตาว้อยยย
เด๋วแปลงร่างเป็น Decepticon มาทุบจอเรยแสดด)


CG ส่วนใหญ่ คิดว่า reuse มาจาก ยานแม่ Decepticon
ในเรื่อง Transformer 2 เพียงแต่เพิ่มไอ้หนืดๆ หยดๆ เข้ามา


CG ระดับ Hollywood ก็เนียน ตามคำร่ำลือ ...


อย่างที่บอกตอนแรกว่า บรรยากาศพาไป ... ถือว่าคุ้มครับ <3
สำหรับคนที่ยังไม่ดู ... แนะนำให้ ... ข้ามไปครับ